Haus64 ขึ้นชื่อเรื่องความเรียบง่าย การออกแบบผ้าปูที่นอนตลอดมาทั้ง 10 แบบ แบรนด์ไลฟ์สไตล์นี้เลือกสีพื้นทั้งผืนหรือลายริ้วเล็ก ๆ เน้นให้ทุกสีสันจับคู่กันได้สวยลงตัว ผู้ซื้อคัดสรรไปมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ตามชอบ นี่เป็นครั้งแรกที่ผ้าปูที่นอนของเราทลายกรอบเดิม ๆ ด้วยการเติม 2 ลายใหม่ล่าสุดเป็นลวดลายดอกไม้ใบหญ้า แต่ยังคงปรัชญาความเรียบง่าย และจับคู่สีสันให้ถูกใจได้ง่ายดาย
เบื้องหลังการออกแบบลาย Spring และ Autumn ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ คือดีไซเนอร์สาวเจ้าของแบรนด์แฟชั่น Zhowcase คุณโช๊ะ-กุลชรี เสียงเย็น ซึ่งยินดีเปิดเผยเรื่องราวของฤดูกาลที่ห่อหุ้มชุดเครื่องนอน Cotton 100% นุ่มๆ ให้มีเสน่ห์แตกต่างไปจากเดิม
เตียงที่คนไทยอยากนอน
“ชุดเครื่องนอนไม่ใช่แฟชั่นเสื้อผ้าที่หวือหวา เทรนด์ไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆ เพราะ Lifetime ของชุดเครื่องนอนยาวมาก คนไม่ได้ต้องการเปลี่ยนสีผ้าปูที่นอนตามกระแสทุกปี เวลาออกแบบจึงต้องเลือกสีที่ใช้ได้ยาวๆ ข้อดีของความมินิมอลคือตอนนี้หรือสิบปีหน้า ผ้าปูที่นอนพวกนี้ก็ยังใช้ได้ ไม่ตกรุ่น หยิบมาใช้ได้ทุกอาทิตย์”
“แต่แน่นอนว่ามันเปลี่ยนไปจากยี่สิบปีที่แล้ว ชุดเครื่องนอนสมัยก่อนมักเป็นผ้าวาวๆ หรูหรา คนต้องการความหลุยส์ เรเนสซองส์บนลายผ้า ตอนนี้ก็ไม่มีแล้ว และสมัยนี้คนกล้าใช้ผ้าสีเข้มมากขึ้น จากที่ไม่ค่อยกล้านอนผ้าปูสีเทาเข้มหรือสีดำ ตอนนี้เปิดใจมากขึ้น ความเป็นไปได้ในการออกแบบมีอีกมากมายเลยค่ะ”
ดีไซเนอร์ผู้มีทั้งแบรนด์สินค้าแฟชั่นตกแต่งบ้านของตนเองมาร่วมสิบปี และเป็นนักออกแบบแบรนดิ้ง ซึ่งถนัดการหยิบสัญลักษณ์หรือลวดลายไทย ๆ มาปรับให้ร่วมสมัย ค่อยๆ อธิบายทิศทางการออกแบบชุดเครื่องนอนในปัจจุบันให้เข้าใจง่าย
สองลวดลายที่เธอออกแบบให้ Haus64 ไม่ใช่ดีไซน์ไทยจัดไทยจ๋า แต่เป็นดีไซน์ที่เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าคนไทยเป็นอย่างดี
‘มินิมอล’ และ ‘ยูนิเซ็กซ์’ คือโจทย์ที่ คุณแนน-พนัชกร บุญยิ่งสถิตย์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Haus64 มอบให้คุณโช๊ะ
ทั้งคู่ได้ข้อตกลงว่า ลวดลายดอกไม้ใบหญ้าคือจุดร่วมที่ทั้งคู่มองหา คุณโช๊ะจึงเลือกหา Symbol ตัวแทนธรรมชาติ และลดทอนรายละเอียดให้เหลือน้อย แต่สื่อสารมากที่สุด
“เราดูเทรนด์ผ้าปูที่นอนแนว Floral แล้วเห็นช่องว่างในตลาด คุยกันว่าอยากสร้างคอลเล็กชันที่สร้างต่อเนื่องได้ เลยเอาไอเดียนี้ไปจับคู่กับฤดูกาล ออกมาเป็นลาย Spring หรือฤดูใบไม้ผลิที่สีสันสดใส กับลาย Autumn ฤดูใบไม้ร่วงสีเอิร์ธโทน สัญลักษณ์ที่คุณแนนให้มาเป็นแนวยุโรป เราก็เลยหยิบลายใบเมเปิ้ล ลูกโอ๊ก พืชพรรณยุโรปมาใช้ ซึ่งในอนาคตอาจมีฤดูกาลอื่นๆ หรือจับสัญลักษณ์อื่น ๆ มาเพิ่มในคอลเล็กชันได้อีก”
ดอกไม้สำหรับทุกคน
ช่องว่างในตลาดผ้าลวดลายดอกไม้ใบหญ้าที่คุณโช๊ะมองเห็น มี 2 ประเด็น คือ เรื่องความหลากหลายของรสนิยม และโทนสีสัน
“ผ้าปูที่นอนลายดอกไม้ใบหญ้าในท้องตลาดค่อนข้างมีความเป็นผู้หญิงมาก ถ้าเราทำให้มันดูกลางมากขึ้น ลดทอนรายละเอียดความหวาน คนที่ไม่ได้มีความเฟมินีนจ๋าๆ ก็ซื้อได้ ใช้ได้อย่างสบายใจ เราเองก็ไม่ใช่คนเฟมินีนมากเหมือนกัน”
“กลุ่มลูกค้าแรกที่เราคิดถึงคือผู้หญิงกับเด็ก สีสันสดใสแบบ Spring ไม่มีปัญหา แต่เรามองว่ากลุ่มลูกค้าของ Haus64 ก็มีผู้ชายเยอะเหมือนกันนะ ลายดอกไม้ใบหญ้าที่ผู้ชายจะเลือกหรือใช้ได้ น่าจะเป็นลายแบบไหน คงต้องเป็นสีเอิร์ธโทน ไม่ใช่ปูมาแล้วสดใสมาก ลาย Autumn ถึงเกิดขึ้นมา ดูเหงาๆ หน่อย ซึ่งสองลายนี้คนละมู้ดกันเลย”
“ผ้าปูที่นอนหนึ่งลาย เราต้องได้เห็นมันอย่างต่ำ 1 สัปดาห์ติดต่อกัน ดังนั้นเราต้องคิดออกแบบลายที่เห็นทุกวันแล้วไม่เบื่อ บางลายคุณผู้หญิงอาจจะชอบ คุณผู้ชายข้าง ๆ อาจจะไม่เสมอไป แล้วยังมีเด็กๆ อีก ในเมื่อคนใช้งานสินค้าเรามีหลายเพศ มีทั้งเป็นคู่กัน เป็นครอบครัว เราก็คำนึงถึงเขาด้วย นอนทุกวันแล้วไม่ขัดใจว่าลายนี่ต่างจากตัวตนที่เขาเป็น”
นอกจากคำนึงถึงคาแรกเตอร์ของผู้ใช้งานทุกคน สีสันยังเป็นสิ่งที่คุณโช๊ะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ทั้งสองลายใหม่นี้เข้ากับผ้าปูที่นอนสีเดิมแทบทั้งหมด เพราะเลือกใช้สีจาก 10 สีที่มีอยู่แล้ว มั่นใจได้ว่าเอาไปจับคู่กันได้สนุกเข้ากันแทบทุกสี
ยกตัวอย่างง่ายๆ ลวดลาย Spring จะคู่กับ Blushing สีชมพูก็อ่อนหวาน แมทช์กับสีฟ้า Blue Dawn ก็สดใสละมุน ตัดกับ Gibraltar Sea สีน้ำเงินลุ่มลึก ก็เตะตาน่ามอง หรือจับกับ Silver Lining ก็สวยสะอาดตา
ส่วน Autumn คู่กับสีเบจ Moonlight แล้วอบอุ่นมาก แมทช์กับ Lofty Gray ก็ได้บรรยากาศธรรมชาติเท่ๆ จับคู่กับชมพู Blushing ก็นุ่มนวลละไม และถ้าลองจับลายชนลายกับ Sand Stripe ก็ได้บรรยากาศอุ่นๆ ที่สนุกสนาน
“สีแฟชั่นอย่างสีแดง สีส้ม เราใช้แค่ 20-30% เท่านั้นเอง อีก 60% เราเลือกสีโทนเย็นมาประกบ เช่น สีฟ้า สีน้ำเงิน สีเทาอมฟ้า เพื่อให้นอนสบาย เห็นแล้วรู้สึกมีชีวิตชีวา แต่ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อกระแทกตา ตั้งใจทำให้สองลายนี้กลมกลืนกับแบรนด์ ทำให้คนชอบสีเรียบๆ ลองเปิดใจให้สองลายนี้ นี่คือสิ่งที่ดีไซเนอร์คิดค่ะ”
Maximalism VS Minimalism
“งานนี้เป็นงานที่มินิมอลที่สุดที่เคยทำมา ลดทอนทุกอย่าง จนในที่สุดได้ผลงานที่ภูมิใจว่าเราก็ทำมินิมอลได้เหมือนกันนะ”
เป็นคำสารภาพของดีไซเนอร์ผู้ทำงานสีสันจัดจ้าน ผสานองค์ประกอบแบบทรงเครื่องจัดเต็มมาตลอด
“ลาย Spring มี 7 สี ลาย Autumn ดูผ่านๆ เหมือนมี 3 สี แต่จริงๆ มี 6 เฉดค่ะ ในความน้อยๆ ก็มีความเยอะของเราแอบซ่อนเข้าไป เพราะจริงๆ แบรนด์ของโช๊ะตรงข้ามกับแบรนด์ของคุณแนนโดยสิ้นเชิง ถ้าคุณแนนเป็นมินิมอล เราเป็นแมกซิมอล แบบไปให้สุด รออะไร” คุณโช๊ะหัวเราะดังๆ
“พอเราจับทางถูกว่าเรากล้าใช้สีฉูดฉาดต่างๆ Zhowcase ทำหมอนอิง ทำผ้าแคนวาสปูโต๊ะ ก็ได้รับผลตอบรับอย่างดี เพราะเราชัดเจนในสไตลิ่งของตัวเอง และมีกลุ่มลูกค้า Niche Market ที่รอสินค้าแนวเขาอยู่”
“น้อยมากที่จะเห็นสีพาสเทลในแบรนด์ส่วนตัวของเรา ทุกสีจะฟาดๆ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้แบรนด์เราอยู่มาได้สิบปีค่ะ เวลาไปออกบูธ คนที่เดินเข้าร้านเราคือผู้ชายที่มีแฟน เขาจะบอกแฟนเขาว่า เธอดูสิ สวย เราเลยรู้ว่างานของเราทำให้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเห็นว่าสวยตรงกันได้ นี่คือความสำเร็จของเรา”
ในความต่างระหว่างมากกับน้อย จุดร่วมที่ Haus64 และ Zhowcase มีคือดีไซน์ยูนิเซ็กซ์ ที่ไม่ว่าเพศไหนก็มองเห็นความงาม และเลือกนำไป Sparkle จุดต่างๆ ในบ้านให้เหมาะกับรสนิยมของตัวเองได้
“เวลาเราออกแบบอะไรสักอย่าง จะถามตัวเองก่อนว่าเราจะใช้มั้ย คิดก่อนแล้วจะออกแบบได้ดี อย่าง Zhowcase เนี่ยไม่ทำเป็นผ้าปูที่นอน เพราะปวดตา จี๊ดจ๊าดไป ไม่เอาค่ะ (หัวเราะ) แต่อันที่ออกแบบให้ Haus64 นี่ซื้อใช้เองแน่นอน”
ด้วยความตั้งใจสร้าง Timeless Design นักออกแบบสาวมองว่างานนี้เป็นโปรเจกต์ที่น่าสนใจมากสำหรับเธอ
“ถึงแบรนด์จะมินิมอลมากๆ แต่มองว่าเรามีศักยภาพที่จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า เพิ่มกลิ่นอายสดชื่นแปลกใหม่ได้ เป็นความท้าทายที่ดี และดีที่เราเคยร่วมงานกันมานาน ก็หาจุดลงตัวได้ว่างานยังมินิมอลอยู่นะ แต่กล้าใช้สีขึ้น ลายนึงมีสี 6-7 สี เราก็หวังว่าลูกค้าจะชอบคอลเล็กชันใหม่นี้ของ Haus64 ค่ะ”
